Apple ว่าจ้างหัวหน้าฝ่ายพัฒนาแชสซีของ Lamborghini ให้กับทีม Car
Apple ทำงานเกี่ยวกับรถยนต์คันแรกมาหลายปีแล้ว ด้วยความผิดหวังและความล่าช้า บริษัทยังคงผลักดันและพัฒนายานยนต์ที่เป็นอิสระ
สมาชิกล่าสุดในทีมที่ทำงานในโครงการลับสุดยอดนี้ไม่ใช่ใครอื่นนอกจาก Luigi Taraborrelli ที่ทำงานกับ Lamborghini มาสองทศวรรษแล้ว คุณ Taraborrelli เป็นหัวหน้าฝ่ายแชสซีและไดนามิกของรถยนต์ที่ผู้ผลิตซูเปอร์คาร์ในอิตาลี และจะเป็นผู้นำในการออกแบบรถยนต์ Apple ในอนาคต
เห็นได้ชัดว่า Apple ได้เพิ่มความพยายามด้วยการว่าจ้างที่มุ่งเน้นอย่างมาก คุณ Taraborrelli ทำงานใน Urus, Huracan และ Avantador ท่ามกลางโครงการอื่นๆ ของ Lamborghini เขาทำงานบน Huracan รุ่นลิมิเต็ดออฟโรดรุ่น Sterrato และเขาทำงานเกี่ยวกับแนวคิด Asterion ประสบการณ์เดิมของเขาในด้านแชสซี การควบคุม ระบบกันสะเทือน การบังคับเลี้ยว และระบบเบรกชี้ให้เห็นชัดเจนว่า Apple กำลังเข้าสู่ขั้นตอนสุดท้ายของการออกแบบรถยนต์
คุณ Taraborrelli ร่วมงานกับ Desi Ujkashevic อดีตหัวหน้าฝ่ายพัฒนาความปลอดภัยในรถยนต์จาก Ford ซึ่ง Apple ได้รับการว่าจ้างในเดือนพฤษภาคมปีนี้ ทีมของ Apple มี Ulrich Kranz ซึ่งเป็นอดีตหัวหน้า Canoo และอดีตหัวหน้าแผนก BMW EV รวมถึง Stuart Bowers อดีตหัวหน้าทีม Autopilot ของ Tesla
Apple ได้พัฒนาอย่างเงียบๆ ไม่เพียงแค่รถยนต์เท่านั้น แต่รวมถึงทีมของผู้คนที่จะขับแผนกรถยนต์ของตนในปีต่อๆ ไป วิศวกรที่ดีที่สุดบางคนจาก Tesla, Rivian, Waymo, Volvo และ Mercedes-Benz กำลังทำงานในโครงการนี้อยู่แล้ว และผู้บริหารระดับสูงด้านการออกแบบจาก Tesla, McLaren, Porsche และ Aston Martin จะเพิ่มประสบการณ์อันมีค่ามากมายให้กับแผนกนี้
ทั้งหมดที่เรารู้เกี่ยวกับการออกแบบรถซึ่งคาดว่าจะเปิดตัวในปี 2568 ก็คือจะช่วยให้ผู้โดยสารสามารถเดินทางโดยหันหน้าเข้าหากัน บริษัทกำลังใช้เวลานานถึงเพียงนี้เพราะต้องการมีรถยนต์ที่ไม่มีพวงมาลัยหรือระบบควบคุมอื่นใด ซึ่งเป็นรถยนต์ที่ขับเคลื่อนอัตโนมัติอย่างแท้จริงคันแรกของโลก สิ่งที่ Apple ต้องการคือช่วงเวลาของ iPhone อีกครั้ง แต่สำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์
สมาชิกในทีมบางคนออกจากบริษัทระหว่างทางคือ Doug Field ซึ่งเป็นหัวหน้าโครงการดั้งเดิมและเข้าร่วมบริษัทหลังจากออกจาก Tesla รวมถึง Ian Goodfellow ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้าน AI ปัจจุบันโครงการรถยนต์ดำเนินการโดย Kevin Lynch และ John Giannandrea
Apple ได้พัฒนารถมาตั้งแต่ปี 2014 ซึ่งเพิ่งพิสูจน์ให้เห็นถึงความสำคัญของงานที่ทำอยู่ มีการเปลี่ยนแปลงตลอดทาง ผู้นำคนใหม่ และแม้กระทั่งข่าวลือเกี่ยวกับโครงการที่ถูกทิ้งไปทั้งหมด แม้ว่าบริษัทจะก้าวไปข้างหน้าอย่างชัดเจนและใช้ประโยชน์จากการพัฒนาเทคโนโลยีล่าสุดในด้าน AI และการขับขี่แบบอัตโนมัติ